คำศัพท์สนทนาภาษาอังกฤษ: การเรียนรู้คำศัพท์เพื่อการสนทนา

คำศัพท์เบื้องต้นในการสนทนาภาษาอังกฤษ

การพูดคุยในภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่สำคัญในการสื่อสารระหว่างคน คำศัพท์เบื้องต้นในการสนทนาภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างประโยคและเข้าใจคำพูดของคนอื่น ดังนั้น เราต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจในคำศัพท์เหล่านี้เพื่อให้สามารถสนทนาภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง

นี่คือคำศัพท์เบื้องต้นที่เราควรรู้ในการสนทนาภาษาอังกฤษ:

1. สวัสดี (Hello) – ใช้เพื่อทักทายคนอื่น เริ่มต้นการสนทนา

2. ยินดีที่ได้รู้จัก (Nice to meet you) – ใช้พูดเมื่อเราพบคนใหม่และต้องการแสดงความยินดีที่ได้พบกัน

3. ขอบคุณ (Thank you) – ใช้เพื่อแสดงความขอบคุณและยอมรับความช่วยเหลือ

4. ยินดีต้อนรับ (You’re welcome) – ใช้เพื่อตอบกลับคนอื่นที่ขอบคุณเรา

5. ขอโทษ (Sorry) – ใช้เพื่อขอโทษเมื่อทำผิดหรือก่อให้เกิดความรำคาญแก่คนอื่น

6. ไม่เป็นไร (It’s okay) – ใช้เพื่อบอกคนอื่นว่าไม่มีปัญหาหรือความเสียหายเกิดขึ้น

7. ช่วยด้วย (Help) – ใช้เมื่อต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น

8. เรียน (Study) – ใช้เมื่อพูดถึงการเรียนรู้หรือการศึกษาในทั่วไป

9. ทำอะไร (What are you doing) – ใช้เพื่อถามสถานะหรือกิจกรรมปัจจุบันของคนอื่น

10. สบายดีหรือเปล่า (How are you) – ใช้เพื่อถามคนอื่นเกี่ยวกับการสภาพหรือความรู้สึกของพวกเขา

วลีและประโยคพื้นฐานในการสนทนาภาษาอังกฤษ

การเรียนรู้วลีและประโยคพื้นฐานในการสนทนาภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน นี่คือบางวลีและประโยคพื้นฐานที่คุณควรรู้:

1. ฉันชื่อ… (My name is…) – ใช้ในการแนะนำตัวเอง

2. ฉันมาจาก… (I’m from…) – ใช้ในการบอกว่าคุณมาจากที่ไหน

3. ฉันต้องการชา (I would like tea) – ใช้ในการสั่งอาหารหรือเครื่องดื่ม

4. หวัดดีตอนเช้า (Good morning) – การทักทายในช่วงเช้า

5. เราต้องการที่ Regent Street (We want to go to Regent Street) – ใช้ในการติดต่อกับคนอื่นเพื่อขอข้อมูลเส้นทาง

6. คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม (Can you speak English) – ใช้ในการถามคนอื่นว่าพวกเขาสามารถพูดภาษาอังกฤษได้หรือไม่

7. ฉันไม่เข้าใจ (I don’t understand) – ใช้เมื่อต้องการบอกว่าตัวเองไม่เข้าใจ

8. ขอโทษที่รบกวน (Excuse me, sorry to bother you) – ใช้เพื่อขออนุญาตหรือขอโทษเมื่อต้องการความสนใจจากคนอื่น

9. เคยไปที่ปารีสมั้ย (Have you ever been to Paris) – ใช้เพื่อถามคนอื่นว่าเคยไปที่ปารีสหรือไม่

10. คุณต้องการฉันที่จะช่วยเหลือไหม (Do you need me to help) – ใช้เพื่อจะเสนอความช่วยเหลือ

วิธีการฝึกพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสนทนา

การพูดภาษาอังกฤษอย่างเป็นกลางและไพเราะเป็นสิ่งสำคัญในการสนทนา นี่คือวิธีบางอย่างที่คุณสามารถฝึกพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสนทนาได้:

1. ฝึกการอ่านและการพูดอย่างสม่ำเสมอ – อ่านหนังสือ, บทความ, หรือบทสนทนาภาษาอังกฤษและพูดออกเสียงตามด้วยตัวคุณเอง ซ้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับปรุงทักษะการออกเสียงและคำพูดของคุณ

2. ฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษ – ฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษจากวิทยุ โทรทัศน์ หรืออินเทอร์เน็ต เน้นการหูฟังและการเข้าใจคำพูดของผู้พูด

3. ฝึกการสนทนากับคนที่พูดภาษาอังกฤษ – ค้นหาเพื่อนที่สนใจในการฝึกภาษาอังกฤษ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมหรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพูดภาษาอังกฤษ

4. ใช้แอพพลิเคชั่นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ – มีแอพพลิเคชั่นที่ให้บทเรียนและการฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษที่สามารถใช้ได้บนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตโดยตรง

5. ฝึกการแสดงออกและการนำเสนอ – หากมีโอกาสให้แสดงความคิดเห็นหรือนำเสนอในภาษาอังกฤษ อย่ารีบหันหลังหรือกลัวผิดพลาด ลองใช้คำศัพท์และวลีที่คุณพึงพอใจเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการพูด

วิธีการฟังและเข้าใจภาษาอังกฤษในการสนทนา

การเข้าใจและทำความเข้าใจภาษาอังกฤษที่คนอื่นพูดเป็นสิ่งสำคัญในการสนทนา นี่คือวิธีการฟังและเข้าใจภาษาอังกฤษในการสนทนา:

1. ฟังเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ – ฟังบทสนทนาว่าเกิดอะไรขึ้นโดยเร็ว นั่นจะช่วยให้คุณเข้าใจบทสนทนาในระดับพื้นฐาน

2. เน้นการเข้าใจคำศัพท์และวลีสำคัญ – ยึดติดบางคำศัพท์หรือวลีที่เกี่ยวข้องกับความหมายหลักของบทสนทนา เช่นคำ

ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษ ถามตอบ: การเรียนรู้ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากเพียงแต่คุณต้องมีคำศัพท์และโครงสร้างประโยคที่ถูกต้องเท่านั้น การฝึกปฏิบัติภาษาอังกฤษในรูปแบบการสนทนาภาษาอังกฤษช่วยให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้โดยธรรมชาติและเพิ่มความมั่นใจของคุณในการสื่อสารกับคนภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ

การสนทนาที่เป็นภาษาอังกฤษประกอบด้วยการถามและตอบกันระหว่างผู้คนสองคนหรือมากกว่า ในประโยคสนทนาภาษาอังกฤษ คำถามจะถูกใช้เพื่อขอข้อมูลหรือสอบถามว่าคุณอยากทราบอะไรบ้าง และคำตอบถูกใช้เพื่อให้ข้อมูลหรือตอบคำถามที่ถามมา ภาษาอังกฤษได้แบ่งประโยคสนทนาออกเป็นหลายสไตล์ตามบทบาทของผู้คนที่มีอยู่ในบทสนทนา

เรามาดูกันว่าประโยคสนทนาแบบถามและตอบในภาษาอังกฤษเป็นอย่างไร

ประโยคสนทนาแบบถามและตอบ:

A: “Excuse me, can you help me find the nearest train station?”

B: “Of course, it’s just a block away. You can go straight ahead and turn left at the corner.”

A: “Thank you so much! How long does it take to get there?”

B: “It usually takes around 10 minutes by walking.”

A: “Is there a ticket counter at the station?”

B: “Yes, there is. You can buy the ticket there or use the ticket vending machines.”

A: “Great! And how often do the train services run?”

B: “The trains run every 20 minutes during weekdays, but the frequency may be reduced on weekends.”

A: “Got it. One last question, are there any restrooms at the station?”

B: “Yes, there are restrooms available on the platform.”

A: “Thank you so much for your help!”

B: “You’re welcome. Have a safe journey!”

คุณสามารถเห็นว่าในประโยคสนทนาภาษาอังกฤษที่กล่าวถึงข้างต้น การถามและการตอบถูกใช้อย่างถูกต้องตามปกติ คำถามถูกใช้ในการขอข้อมูลเพิ่มเติมและการสอบถามคำถามเฉพาะเรื่อง และคำตอบใช้เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือตอบคำถามที่ถามมา

แต่ละประโยคสนทนาเรียกว่า “turn-taking” ซึ่งแสดงถึงกระบวนการที่ผู้คนใช้ในการแลกเปลี่ยนคำถามและคำตอบกัน การสับเปลี่ยนตำแหน่งของคำถามและคำตอบระหว่างผู้คนในประโยคสนทนาทำให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น

เรามาดูบางประโยคสนทนาเพิ่มเติมเพื่อเตรียมคำถามที่คุณอาจพบในการสนทนาภาษาอังกฤษ:

Q: “What time is it?”

A: “It’s 3 o’clock.”

Q: “Where is the nearest supermarket?”

A: “It’s about 2 blocks away. You can go straight and turn right at the traffic lights.”

Q: “How much is this shirt?”

A: “It’s $20.”

Q: “Do you have any recommendations for vegetarian restaurants?”

A: “Yes, there is a good vegetarian restaurant called ‘Green Eats’ nearby.”

Q: “Is there a bank around here?”

A: “Yes, there’s a bank just around the corner.”

Q: “How can I get to the airport from here?”

A: “You can take a taxi or a bus. The taxi ride takes about 30 minutes, while the bus ride might take around an hour.”

FAQs:
1. ฉันต้องทำอย่างไรเพื่อพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วและสื่อสารได้เป็นอย่างดี?
– เพื่อพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและสื่อสารได้เป็นอย่างดี คุณต้องฝึกฟังและพูดอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนอ่านและเขียนภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ

2. วิธีการฝึกฝนการสนทนาภาษาอังกฤษอย่างไร?
– มีหลายวิธีในการฝึกฝนการสนทนาภาษาอังกฤษ เช่นอ่านหนังสือหรือบทความภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ฟังวิทยุหรือรับชมหนังที่มีซับไทย เขียนบล็อกหรือบทความเกี่ยวกับเรื่องที่สนใจ และสนทนากับคนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่

3. การใช้ช่องว่างในประโยคสนทนาภาษาอังกฤษคืออะไร?
– การใช้ช่องว่างในประโยคสนทนาภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะช่องว่างช่วยให้การเข้าใจประโยคออกเสียงได้ชัดเจนมากขึ้น เช่น “What are you doing?” จะสื่อถึงความหมายที่แตกต่างจาก “What are youdoing?”

4. การใช้คำเชื่อมเป็นประโยคสนทนาภาษาอังกฤษเป็นข้อไหน?
– คำเชื่อมในประโยคสนทนาภาษาอังกฤษช่วยในการเชื่อมความคิดระหว่างประโยค เช่น “and” ใช้แสดงความเป็นต่อเนื่อง “but” ใช้แสดงข้อขัดแย้งหรือความตรงกันข้ามและ “or” ใช้ในการเลือกคำหรือเงื่อนไข

5. ฉันสามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อสนทนาใช้งานได้อย่างรวดเร็วในเวลาสั้นได้หรือไม่?
– การเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อสนทนาใช้งานได้อย่างรวดเร็วขึ้นมีความยืดหยุ่นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความกังวลของผู้เรียนในภาษา และประสบการณ์การฝึกฝนของผู้เรียน หากคุณมีเวลาในการฝึกอย่างต่อเนื่องและมองหาโอกาสในการปฏิบัติใช้งานภาษา คุณสามารถเรียนรู้และพัฒนาภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

บทสนทนาภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจำวัน

ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแห่งการสื่อสารที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมปัจจุบัน ด้วยความเจริญของเทคโนโลยีและความแบ่งเบาะแสร์ของสังคมทั่วโลก การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันเริ่มกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมี ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับคนต่างชาติในการท่องเที่ยว การสมัครงานในบริษัทต่างประเทศ หรือแม้แต่การอ่านข่าวเพื่อประกอบการพูดคุยในชีวิตประจำวัน เราสามารถพบเห็นบทสนทนาภาษาอังกฤษเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันได้อย่างมากมาย

นอกจากจะเป็นเครื่องมือในการสื่อสารกับคนต่างชาติ บทสนทนาภาษาอังกฤษยังช่วยสร้างความมั่นใจในตัวเราเอง การควบคุมคำพูดได้เป็นอย่างดีในภาษาอังกฤษสามารถเสริมสร้างความรู้สึกในการสื่อสารได้ชัดเจนและราบรื่น ทำให้เราเก่งในการแสดงออกถึงความคิดเห็น การสร้างความสามัคคีระหว่างบุคคล และสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

เพื่อให้เข้าใจเหตุผลที่ควรนำภาษาอังกฤษมาใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถดูตัวอย่างได้จากการสนทนาในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น การไปห้างสรรพสินค้า การสนทนากับพนักงานบริการหรือร้านค้า การสนทนากับเพื่อนๆในงาน หรือการสนทนากับครอบครัว ในทุกสถานการณ์เหล่านี้ เราจะต้องใช้ภาษาอังกฤษเพื่อแสดงความคิดเห็น แสดงความต้องการ หรือแสดงความคิดเห็นโดยทั่วไป

หากเรามีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษที่เป็นเลิศ เราจะได้รับประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นในด้านการสรรหางาน การศึกษาต่อในต่างประเทศ หรือการคว้าคัดเพื่อนสมัครในงาน การนำเสนอไอเดีย และหน้าที่ในที่ทำงานหรือธุรกิจ ภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างเครือข่ายที่แข็งแรง และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างศักยภาพในอาชีพหรือสิ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสนทนาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน:
1. ควรเริ่มเรียนรู้ภาษาอังกฤษตั้งแต่อายุเท่าไร?
คุณสามารถเริ่มเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่อายุเด็กเล็ก การเรียนรู้ภาษาต่างภาษาตั้งแต่อายุน้อยช่วยพัฒนาทักษะการเรียนรู้มากมาย ทำให้เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำความเข้าใจและสื่อสารในอนาคต

2. ฉันควรทำอย่างไรเพื่อเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น?
เพื่อเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นคุณควรฝึกพูดภาษาอังกฤษเสมอ และนำภาษาอังกฤษเข้าสู่ชีวิตประจำวัน เช่นการอ่านหนังสือ เพลง หรือการตั้งคำถามเพื่อฝึกการแสดงความคิดเห็น เป็นต้น

3. ควรใช้ช่วงเวลากี่นาทีต่อวันในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ?
หากคุณต้องการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้ดีขึ้น ควรใช้เวลาเรียนรู้อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างไรก็ตาม ควรปรับการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเวลาที่คุณมีอยู่

4. มีแหล่งเรียนรู้ภาษาอังกฤษในช่วงเวลาว่างให้ใช้บ้างไหม?
คุณสามารถใช้ช่วงเวลาว่างเพื่อฝึกภาษาอังกฤษได้โดยใช้แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชันสำหรับฝึกภาษา หรือดูรายการทีวีหรือภาพยนตร์เป็นภาษาอังกฤษเพื่อฝึกภาษาในสถานการณ์จริง

5. เรียนรู้ภาษาอังกฤษไปแล้วสามารถทำอะไรได้บ้าง?
เรียนรู้ภาษาอังกฤษไปแล้วคุณสามารถเปิดโอกาสในการทำงานที่หลากหลายมากขึ้น เช่น สามารถทำงานได้ในบริษัทต่างประเทศ ทำงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หรือเปิดตัวเองในธุรกิจส่วนตัว นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มศักยภาพในอาชีพของคุณได้อีกมากมาย

ในสังคมที่ต่อเนื่องกันตลอดเวลา การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่จำเป็นจริงๆ ไม่ว่าจะมาจากเหตุผลใดก็ตาม การพัฒนาทักษะการพูดอังกฤษในชีวิตประจำวันจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีและสื่อสารกับคนอื่นๆในทุกๆ มุมมอง

สุดท้ายที่สำคัญ การฝึกภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ และไม่จำเป็นต้องมีหลักสูตรการศึกษาเฉพาะเจาะจง สิ่งที่จำเป็นคือให้เรามีความตั้งใจ และความพยายามในการพัฒนาทักษะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และรู้จักใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีความมั่นใจ ทั้งหมดนี้จะจัดสร้างพื้นฐานและความสามารถในชีวิตประจำวันที่ดีและประสบความสำเร็จในอาชีพ

คำพูดที่อังกฤษเป็นภาษาระดับโลก เป็นภาษาที่มีความสำคัญอย่างมาก การศึกษาและเรียนรู้ภาษาอังกฤษจึงเป็นเรื่องสำคัญในปัจจุบัน โดยเราสามารถศึกษาและเรียนรู้โดย 500 ประโยคภาษาอังกฤษที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ดังนี้

1. Hello! – สวัสดี!
2. How are you? – สุขภาพกำลังดีไหม?
3. I’m fine. – ฉันสบายดี
4. What’s your name? – คุณชื่ออะไร?
5. My name is [name]. – ชื่อฉันคือ [ชื่อ]
6. Where are you from? – คุณมาจากที่ไหน?
7. I’m from [country]. – ฉันมาจากประเทศ [ชื่อประเทศ]
8. How old are you? – คุณอายุเท่าไหร่?
9. I’m [age] years old. – ฉันอายุ [อายุ] ปี
10. What do you do for a living? – คุณทำอาชีพอะไร?
11. I’m a [occupation]. – ฉันเป็น [อาชีพ]
12. Nice to meet you. – ยินดีที่ได้รู้จักคุณ
13. Good morning! – สวัสดีตอนเช้า!
14. Good afternoon! – สวัสดีตอนบ่าย!
15. Good evening! – สวัสดีตอนเย็น!
16. Good night! – ต้องการแปะรถหน้าหอพัก
17. Have a nice day! – ขอให้มีวันทำงานที่ดี!
18. How can I help you? – มีอะไรให้ฉันช่วย?
19. Thank you. – ขอบคุณ
20. You’re welcome. – ยินดีที่ได้ช่วยเหลือ

21. Excuse me. – ขอโทษนะคะ
22. Sorry. – ขอโทษ
23. Can you repeat that, please? – คุณพูดอีกครั้งหน่อยได้ไหมคะ?
24. I don’t understand. – ฉันไม่เข้าใจ
25. Do you speak English? – คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม?
26. Yes, I do. – ใช่, ฉันพูดภาษาอังกฤษได้
27. No, I don’t. – ไม่, ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
28. Where is the nearest bathroom? – ห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน?
29. I’m hungry. – ฉันหิว
30. I’m thirsty. – ฉันกระหาย
31. How much does it cost? – มันราคาเท่าไหร่?
32. Can I have a receipt, please? – ขอใบเสร็จหน่อยได้ไหมคะ?
33. Can I pay by credit card? – ฉันจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ไหม?
34. What time is it? – ตอนนี้เวลากี่โมง?
35. Can you show me on the map? – คุณแสดงให้ดูที่แผนที่ได้ไหมคะ?
36. Where is the nearest hospital? – โรงพยาบาลใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน?
37. What’s the weather like today? – สภาพอากาศวันนี้เป็นอย่างไร?
38. What’s your favorite food? – อาหารที่คุณชอบคืออะไร?
39. What’s your hobby? – งานอดิเรกของคุณคืออะไร?
40. Can you recommend a good restaurant? – คุณแนะนำร้านอาหารที่ดีหน่อยได้ไหมคะ?

41. Can I have the bill, please? – ขอบิลหน่อยได้ไหมคะ?
42. Where can I buy souvenirs? – ฉันซื้อของที่ระลึกได้ที่ไหน?
43. Do you have any recommendations for things to do? – คุณมีคำแนะนำสำหรับสิ่งที่ควรทำไหมคะ?
44. How do I get to [destination]? – ฉันจะไปที่ [สถานที่] ได้อย่างไร?
45. Can I have a glass of water, please? – ขอน้ำให้หน่อยได้ไหมคะ?
46. Can I have some more, please? – ขอเพิ่มอีกหน่อยได้ไหมคะ?
47. What time does the bus leave? – เวลาเดินทางของรถบัสคืออะไร?
48. What platform does the train leave from? – รถไฟจะออกจากแถวไหน?
49. Do you have any vegetarian options? – มีอาหารเจไหมคะ?
50. What’s the Wi-Fi password? – รหัส Wi-Fi คืออะไร?

51. Do you have any discounts or promotions? – มีส่วนลดหรือโปรโมชั่นอะไรไหม?
52. Can I try this on? – ฉันสามารถลองสิ่งนี้ได้ไหม?
53. Can I have a different size? – ขอไซส์อื่นหน่อยได้ไหมคะ?
54. Where can I find a taxi? – ฉันจะหาแท็กซี่ได้ที่ไหน?
55. Is there an ATM nearby? – ใกล้ๆ นี้มี ATM ไหมคะ?
56. How far is it to the nearest train station? – ไปสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดระยะทางเท่าไร?
57. Is there a pharmacy around here? – ในบริเวณนี้มีเภสัชกรรมไหมคะ?
58. Can you call a taxi for me, please? – ให้อุปกรณ์ผ่านอินเทอร์เน็ต (IP Telephone) ได้ไหมครับ?
59. Can you help me with this? – ช่วยฉันทำอะไรสักอย่างได้ไหมคะ?
60. I need a doctor. – ฉันต้องการหมอ

61. Can you take a picture for me, please? – ถ่ายรูปให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?
62. Can you recommend a good hotel? – คุณแนะนำโรงแรมที่ดีหน่อยได้ไหมคะ?
63. How do I get to the airport? – ฉันจะไปสนามบินอย่างไร?
64. Can you help me with my luggage? – ช่วยฉันหน่อยได้ไหมคะ?
65. Can I have an extra towel, please? – ขอผ้าเช็ดตัวเพิ่มได้ไหมคะ?
66. Can you recommend a good book? – คุณแนะนำหนังสือที่ดีหน่อยได้ไหมคะ?
67. Is there a swimming pool here? – ที่นี่มีสระว่ายน้ำไหมคะ?
68. Can I have some more coffee, please? – ขอเพิ่มกาแฟหน่อยได้ไหมคะ?
69. Do you have any non-smoking rooms? – มีห้องที่ไม่สูบบุหรี่ไหมคะ?
70. Can you recommend a good movie? – คุณแนะนำภาพยนตร์ที่ดีหน่อยได้ไหมคะ?

71. Can I borrow a pen, please? – ขอยืมปากกาหน่อยได้ไหมคะ?
72. How much is the rent? – เช่าราคาเท่าไหร่?
73. When is the deadline? – เวลาส่งงานเท่าไหร่?
74. Can you fix this, please? – ช่วยซ่อมสิ่งนี้หน่อยได้ไหมคะ?
75. Can I have a discount, please? – ขอส่วนลดหน่อยได้ไหมคะ?
76. Do you have any available appointments? – มีที่มีอยู่หรือเปล่าคะ?
77. Can I have a glass of wine, please? – ขอไวน์หนี่ได้ไหมคะ?
78. Can I bring a guest? – ฉันสามารถเชิญแขกร่วมได้ไหมคะ?
79. Can you recommend a good hair salon? – คุณแนะนำร้านตัดผมที่ดีหน่อยได้ไหมคะ?
80. What’s the best way to get there? – วิธีที่ดีที่สุดในการไปที่เนี่ย?

81. Can I have a different color, please? – ขอสีอื่นหน่อยได้ไหมคะ?
82. How long does it take? – ใช้เวลานานเท่าไหร่?
83. Can I have a seat, please? – ขอที่นั่งหน่อยได้ไหมคะ?
84. Can I have a menu, please? – ขอเมนูหน่อยได้ไหมคะ?
85. Can you help me find my way? – ช่วยฉันหาทางได้ไหมคะ?
86. Can I have a straw, please? – ขอหลอดหน่อยได้ไหมคะ?
87. Can you recommend a good coffee shop? – คุณแนะนำร้านกาแฟที่ดีหน่อยได้ไหมคะ?
88. Can I have a refund, please? – ขอคืนเงินหน่อยได้ไหมคะ?
89. Can I have a vegetarian option, please? – ขอเมนูอาหารแบบเจได้ไหมคะ?
90. Can you help me with this form? – ช่วยฉันกรอกแบบฟอร์มนี้หน่อยได้ไหมคะ?

91. Can I have the recipe, please? – ขอสูตรอาหารหน่อยได้ไหมคะ?
92. Can you recommend a good gym? – คุณแนะนำสุขภาพตลอดระหว่างทำให้ได้ผลในการเลือกโรงยิมที่ดีครับ?
93. Can I have the password, please? – ขอรหัสผ่านหน่อยได้ไหมคะ?
94. Can you recommend a good tourist attraction? – คุณแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีๆหน่อยได้ไหมคะ?
95. Can I have a refill, please? – ขอเติมอีกหน่อยได้ไหมคะ?
96. Can you recommend a good hiking trail? – คุณแนะนำเส้นทางป่าเดินเท้าที่ดีหย่อยได้ไหมคะ?
97. Can I have a cup of tea, please? – ขอชาหน่อยได้ไหมคะ?
98. Can you recommend a good museum? – คุณแนะนำพิพิธภัณฑ์ที่ดีหน่อยได้ไหมคะ?
99. Can I have your phone number, please? – ขอหมายเลขโทรศัพท์ของคุณหน่อยได้ไหมคะ?
100. Can you recommend a good park? – คุณแนะนำสวนสาธารณะที่ดีหน่อยได้ไหมคะ?

101. Can I take a picture with you? – ฉันถ่ายรูปกับคุณได้ไหมคะ?
102. Can you recommend a good beach? – คุณแนะนำชายหาดที่ดีหน่อยได้ไหมคะ?
103. Can I have a different flavor, please? – ขอรสอื่นหน่อยได้ไหมคะ?
104. Can you recommend a good shopping mall? – คุณแนะนำห้างสรรพสินค้าที่ดีหน่อยได้ไหมคะ?
105. Can I have a glass of juice, please? – ขอน้ำผลไม้หน่อยได้ไหมคะ?
106. Can you recommend a good music festival? – คุณแนะนำงานเพลงที่ดีหน่อยได้ไหมคะ?
107. Can I have a different style, please? – ขอสไตล์อื่นหน่อยได้ไหมคะ?
108. Can you recommend a good hiking spot? – คุณแนะนำเส้นทางเดินป่าที่ดีหน่อยได้ไหมคะ?
109. Can I have a discount code, please? ขอรหัสส่วนลดหน่อยได้ไหมคะ?
110. Can you recommend a good bar? – คุณแนะนำบาร์ที่ดีหน่อยได้ไหมคะ?

111. Can I have a glass of beer, please? – ขอเบียร์ห

พบ 32 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ คํา ศัพท์ สนทนา ภาษา อังกฤษ.